ก.ล.ต.ฟัน 32 รายแก๊งปั่นหุ้น MORE ตระกูลดังเพียบ เสียหาย 800 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในกรณีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และพบข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ได้ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค. 2565 – 10 พ.ย. 2565 ได้แก่
- นายอภิมุข บำรุงวงศ์
- นายเอกภัทร พรประภา
- นายอธิภัทร พรประภา
- นางอรพินธุ์ พรประภา
- นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล
- บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด
- บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด
- นายสมนึก กยาวัฒนกิจ
- นายโสภณ วราพร
- นายวสันต์ จาวลา
- Mr. Shubhodeep Prasanta Das
- นายประยูร อัสสกาญจน์
- นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ
- นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์
- นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
- นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์
- นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ
- นายมั่นคง เสถียรถิระกุล
- นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์
- นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช
- นางสาวสิริรัตน์ สมณาศรี
- นายธีรพงศ์ ด่านวณิชวงศ์
- นายวิศรุต เจียมจิตพลชัย
- นายปรณัฐ นุชาชาติพงศ์
- นายภูดิท สุจริตกุล
- นายวัชรินทร์ ยังให้ผล
- นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา
- นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง
- นายภัทร ฉัตรเจริญสุข
- นายชยพล พันธุ์แพ
- นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย
- นางศศินภา วราพร
ปปง.ร้องศาล ขอให้ทรัพย์สิน 4,470 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน คดีโกงหุ้น MORE
ก.ล.ต.ฟันผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE พร้อมพวก 18 ราย ปั่นราคาหุ้น
ผู้ถือหุ้นใหญ่สุด MORE แจ้งลาออกทุกตำแหน่ง หลังถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษปั่นหุ้น คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวทมีความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งด้านความสัมพันธ์ส่วนตัว ทางเงิน การซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงช่องทางและสถานที่ในการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยได้แบ่งหน้าที่กันหรือตกลงร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน
ซึ่งมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาดอันเข้าข่ายเป็นฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 (แล้วแต่กรณี) แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้รับหรือพึงได้รับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 32 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้รายงานการต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ
ในกรณีนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมโดยประสานความร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย บก.ปอศ. ในการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการทำงานเชิงรุกร่วมกันในการสืบสวนและตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย